นโยบายความเป็นส่วนตัว

 

 

ประกาศ

               เรื่อง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) สำหรับลูกค้า และคู่ค้า

 

บริษัท เอิร์ธ (ประเทศไทย) จำกัด (เอิร์ธ) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยยึดถือปฏิบัติภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 โดย ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คือ หลักความจำเป็น ความได้สัดส่วน และการเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ และมาตรฐานสากล จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและสาธารณชนรับทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ หลักการ และมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล โดย เอิร์ธ เพื่อดำเนินการใน การดำเนินงานในการผลิตและจำหน่ายสินค้าสู่คู่ค้าภาคธุรกิจและผู้บริโภคให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทุกภูมิภาค ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และดำเนินการตามกฎหมายอื่นที่กำหนดให้เป็นหน้าที่ของ เอิร์ธ ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนเพื่อบริหารจัดการภายในของ เอิร์ธ

นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว เอิร์ธ ยังกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ เอิร์ธ เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้รับทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญ ระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั่น

  1. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ เอิร์ธ เก็บรวบรวม

เอิร์ธ เก็บรวบรวม สี่ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆจากแหล่งข้อมูลต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ในช่องทางให้บริการต่างๆ เช่นขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำเเบบสำรวจ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย เอิร์ธ หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ เอิร์ธ ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย เอิร์ธ
  • ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่นๆตามสัญญาหรือตามพันธกิจ หรือพันธะที่มีต่อกัน เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ เอิร์ธ โดยการใช้คุกกี้ หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยแหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ หรือมีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลให้แก่ เอิร์ธ เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัล กับหน่วยงานอื่น ลีองค์กรอื่น เพื่อประโยชน์แก่

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง รวมถึงความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคล กับหน่วยงานที่เป็นคู่ค้าคู่สัญญา

  • เอิร์ธ กำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการ เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา อันทำให้ เอิร์ธ สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาหรือดำเนินการอันเป็นไปตามความจำเป็นต่อการเข้าทำสัญญาซึ่งมีเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญากับ เอิร์ธ ได้แก่ การจ้างงาน จ้างทำของ การทำบันทึกข้อตกลง บันทึกความร่วมมือ หรือสัญญาในรูปแบบอื่น เป็นต้น
  • เอิร์ธ กำหนดฐานการจัดทำเอกสารทางประวัติศาสตร์ วิจัย หรือสถิติ ที่ เอิร์ธ อาจได้รับมอบหมาย เช่น การจัดทำทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหาร คณะกรรมการ
  • เอิร์ธ ดำเนินการเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ที่ควบคุม เอิร์ธ เช่น กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายด้านศุลกากร รวมถึงการดำเนินการตามคำสั่งศาล เป็นต้น

ทั้งนี้ กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธการให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของ เอิร์ธ อาจมีผลให้ เอิร์ธ ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

ในกรณีที่ เอิร์ธ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากเจ้าของข้อมูล ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล มีการคัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนั้นๆ อาจมีผลทำให้ เอิร์ธ ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ร้องขอได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

  1. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ เอิร์ธ เก็บรวบรวม

เอิร์ธ อาจเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลดังต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับบริการที่บุคคลใช้หรือบริบทความสัมพันธ์ของบุคคลที่มีกับ เอิร์ธ รวมถึงข้อพิจารณาอื่นที่มีผลกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ เป็นเพียงกรอบการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ของเอิร์ธ เป็นการทั่วไป ทั้งนี้เฉพาะ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บุคคลใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้

 

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดและตัวอย่าง
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล ข้อมูลระบุชื่อเรียกของบุคคลหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของบุคคล  เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน หมายเลขใบประกอบการ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ (สำหรับแต่ละอาชีพ) หมายเลขประจำตัวผู้ประกันตน หมายเลขประกันสังคม เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวบุคคล  เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ สถานภาพการสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาพูด ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ ข้อมูลเพื่อการติดต่อบุคคล เช่น หมายเลขโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์บ้าน ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, MS Teams) แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา รายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน ผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน หมายเลขบัญชีเงินฝากธนาคาร สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา วันที่สำเร็จการศึกษา เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย รายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยผู้ปฏิบัติงาน เช่น ผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หมายเลขกรมธรรม์ ประเภทกรมธรรม์ วงเงินคุ้มครอง ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลม เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม ข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของบุคคล เช่น สถานภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งทางการเมือง การดำรงตำแหน่งกรรมการ ความสัมพันธ์กับผู้ปฏิบัติงานของ เอิร์ธ ข้อมูลการเป็นผู้มีสัญญาจ้างกับ เอิร์ธ ข้อมูลการเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่ทำกับ เอิร์ธ เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของ เอิร์ธ รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ เอิร์ธ เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลข PIN ข้อมูล Single Sign-on (SSO ID) รหัส OTP ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน (เว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของ เอิร์ธ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ) ประวัติการสืบค้น คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูล Browser ภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของบุคคล  เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ข้อมูลความเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น

 

กรณีที่ เอิร์ธ ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นผู้เยาว์ คนร้ายความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ เอิร์ธ จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

จนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

กรณีที่ เอิร์ธ ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ ผู้ไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า เอิร์ธ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์แล้วแต่กรณี เอิร์ธ จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็ว หาก เอิร์ธ ไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

  1. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดย เอิร์ธ

ในการดำเนินธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาตทางกฎหมายของ เอิร์ธ มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา (ข้อมูลส่วนบุคคล) ที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ชื่อ นามสกุล  บัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย รายละเอียดที่อยู่และการติดต่อ ข้อมูลการเงิน ข้อมูลประวัติส่วนตัว เป็นต้น ทั้งจากเจ้าของข้อมูลที่ได้รับมาโดยตรงและจากแหล่งอื่น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวครอบคลุมถึงพนักงาน ผู้ปฏิบัติงานและลูกจ้างของบริษัท กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น บุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกัน ของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับ เอิร์ธ ข้อมูลที่ได้รับจาก e-MarketPlace ข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัท คู่ค้า คู่สัญญา ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลธรรมดา บริษัทในเครือ ระบบ แอปพลิเคชั่น เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นๆ ที่ควบคุมดูแลโดย เอิร์ธ ลูกค้า ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ของ เอิร์ธ ผู้เข้าชมหรือใช้เว็บไซต์ สี่ช่องทางการสื่อสารอื่นที่ควบคุมดูแลโดย เอิร์ธ บุคคลอื่นที่ เอิร์ธ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของพนักงานหรือลูกจ้าง ผู้ค้ำประกัน ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นต้น

  1. วัตถุประสงค์ของ เอิร์ธ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลของ เอิร์ธ เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือกิจกรรมที่บุคคลใช้บริการ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของบุคคลกับ เอิร์ธ หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ เป็นไปเพื่อการดำเนินธุรกิจตาม วัตถุประสงค์และใบอนุญาตที่ได้รับตามกฎหมาย และเพื่อการบริหารจัดการองค์กร ของ เอิร์ธ

วัตถุประสงค์ที่สำคัญของ เอิร์ธ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นเพียงกรอกการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของ เอิร์ธ เป็นการทั่วไป ทั้งนี้เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บุคคลใช้งาน หรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของบุคคล ได้แก่

  • เพื่อให้บริการและบริหารจัดการบริการของ เอิร์ธ ทั้งบริการภายใต้สัญญาที่มีต่อบุคคลหรือตามรูปแบบธุรกิจของ เอิร์ธ
  • เพื่อการดำเนินการทางธุรกรรมของ เอิร์ธ
  • เพื่อควบคุมดูแล ใช้งาน ติดตาม ตรวจสอบ และบริหารจัดการ เพื่ออำนวยความสะดวกและให้สอดคล้องกับความต้องการของบุคคล
  • เพื่อเก็บรักษา และปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวข้องกับบุคคล รวมทั้งเอกสารที่มีการกล่าวอ้างถึงบุคคล เพื่อจัดทำบันทึกรายการการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
  • เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับบริการของ เอิร์ธ
  • เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นในการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการรับสมัครงาน การสรรหา ระดับกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ การประเมินคุณสมบัติ
  • เพื่อป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบ เพื่อต่อต้านการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้ง เอิร์ธ และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อการยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตน และตรวจสอบข้อมูลเมื่อบุคคลสมัครใช้บริการของ เอิร์ธ หรือติดต่อใช้บริการ หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
  • เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้ทันสมัย
  • เพื่อการประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
  • เพื่อการแจ้งเตือนการยืนยันการทำคำสั่ง การติดต่อสื่อสาร และแจ้งข่าวสารไปยังบุคคล
  • เพื่อจัดทำและส่งมอบเอกสารหรือข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็น
  • เพื่อยืนยันตัวตน ป้องกันการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
  • เพื่อตรวจสอบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เข้าถึงและใช้บริการของ เอิร์ธ อย่างไร ทั้งในภาพรวมและรายบุคคล และเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าและการวิเคราะห์
  • เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นในการปฏิบัติตามภารกิจและธุรกิจของ เอิร์ธ
  • เพื่อป้องกันหรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด
  • เพื่อการเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์ นี้จะทำสถิติ บุคลากร ผู้บริหาร กรรมการ ของ เอิร์ธ ตามที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่ง ที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของบุคคลนั้น
  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น เอิร์ธ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ประเภทของบุคคลผู้รับข้อมูลที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ เป็นเพียงกรอบการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ เอิร์ธ เป็นการทั่วไป เฉพาะบุคคลที่ได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บุคคลนั้นใช้งานหรือมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้

ประเภทบุคคลผู้รับข้อมูล รายละเอียด
หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่ เอิร์ธ ต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญอื่น (เช่น การดำเนินการเพื่อประโยชน์สาธารณะ) หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมาย หรือมีอำนาจควบคุมกำกับดูแลหรือมีวัตถุประสงค์อื่นที่มีความสำคัญ เช่น คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีผู้รักษาการ กรมการปกครอง กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจ ศาล สำนักงานอัยการ กรมควบคุมโรค กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานปลัดสำนักนายก กรมการกงสุล กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นต้น
คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของ เอิร์ธ เอิร์ธ อาจเปิดเผยข้อมูลของบุคคล แก่บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการในคณะต่าง ๆ
คู่สัญญาซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงานของ เอิร์ธ บุคคลภายนอกที่ เอิร์ธ จัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการ เช่น บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล บริษัทผู้จัดทำ Payroll ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรศัพท์ เป็นต้น
พันธมิตรทางธุรกิจ เอิร์ธ. อาจเปิดเผยข้อมูลของบุคคลนั้นๆ แก่บุคคลที่ร่วมงานกับ เอิร์ธ เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่บุคคลนั้น เช่น หน่วยงานผู้ให้บริการที่บุคคล ติดต่อผ่านบริการของ เอิร์ธ ผู้ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการโทรคมนาคม เป็นต้น
ผู้ให้บริการ เอิร์ธ อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นเป็นผู้ให้บริการแทน หรือสนับสนุนการดำเนินการของ เอิร์ธ เช่น ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูล (เช่น คลาวด์ คลังเอกสาร) ผู้พัฒนาระบบ ซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ ผู้ให้บริการจัดส่งเอกสาร ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการโทรศัพท์ ผู้ให้บริการด้าน Digital ID ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการด้านการบริหารความเสี่ยง ที่ปรึกษาภายนอก ผู้ให้บริการขนส่ง เป็นต้น
ผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เอิร์ธ อาจเปิดเผยข้อมูลของบุคคล ให้แก่บุคคลผู้รับข้อมูลประเภทอื่น เช่น ผู้ติดต่อ เอิร์ธ สมาชิกในครอบครัว มูลนิธิที่ไม่แสวงหากำไร วัด โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่น ๆ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับบริการของ เอิร์ธ การฝึกอบรม การรับรางวัล การร่วมทำบุญ บริจาค เป็นต้น
การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ เอิร์ธ อาจเปิดเผยข้อมูลของบุคคลต่อสาธารณะในกรณีที่จำเป็น เช่น การดำเนินการที่กำหนดให้ เอิร์ธ ต้องประกาศลงในหนังสือพิมพ์ เป็นต้น

 

  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ในบางกรณี เอิร์ธ อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตาม วัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่บุคคลนั้น เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคล ไปยังระบบคลาวด์ ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่ายอยู่ต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริการของ เอิร์ธ ที่บุคคลใช้งาน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนั้น เมื่อ เอิร์ธ มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลใดไปยังประเทศปลายทาง เอิร์ธ จะดำเนินการ เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐาน หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่

  • แจ้งให้บุคคลนั้นทราบ และได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  • พิจารณากรณีที่เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่บุคคลนั้นเป็นคู่สัญญากับ เอิร์ธ หรือเป็นการทำตามคำขอของบุคคลนั้นก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
  • เป็นการกระทำตามสัญญาของ เอิร์ธ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของบุคคลนั้น
  • พิจารณาเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลนั้นหรือของบุคคลอื่น เมื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลนั้นไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
  • พิจารณาเมื่อเป็นความจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
  1. ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เอิร์ธ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็น กราฟวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศ หรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เมื่อพ้นระยะเวลาหรือข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ สิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวแล้ว เอิร์ธ จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นๆ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการหรือกฎหมายจะได้ประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐาน

อย่างไรก็ตาม  ในกรณีที่มีข้อพิพาทการใช้สิทธิหรือคดีความ เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลใดๆ เอิร์ธ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

  1. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง

เอิร์ธ อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อหรือจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ เอิร์ธ ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่างๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล การรับงานบริการช่วง หรือเป็นผู้ให้บริการภายนอก หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบใดๆ

ทั้งนี้ การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เอิร์ธ จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ เอิร์ธ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ เอิร์ธ มอบหมายนายฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ เอิร์ธ มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของ เอิร์ธ เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด

ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายให้ผู้ให้บริการช่วง หนึ่งผู้ประมวลผลช่วง เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทน หรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เช่นนี้ เอิร์ธ จะกำกับผู้ให้บริการประมวลผล

ข้อมูลส่วนบุคคล จัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วงในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง เอิร์ธ กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ

  1. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เอิร์ธ จะจัดให้มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะราย หรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของ เอิร์ธ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติงานตามหน้าที่ โดย เอิร์ธ จะจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรและเชิงเทคนิค ที่ได้มาตรฐาน และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

ทั้งนี้ เมื่อ เอิร์ธ มีการส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามบทบาทหน้าที่ทางธุรกิจ ตามพันธะสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น เอิร์ธ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสม และเป็นไปตามกฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ เอิร์ธ เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ

  1. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก

การดำเนินธุรกิจของ เอิร์ธ และการให้บริการที่เป็นอยู่ประจำวัน อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ เอิร์ธ ขอให้เจ้าของข้อมูลโปรดศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการนั้นๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนเข้าใช้งาน ทั้งนี้ เอิร์ธ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจในการควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หลี่การกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สามได้

  1. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เอิร์ธ จะดำเนินการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับ และให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

  1. สิทธิของบุคคลตามพระราชบัญญัติ

เอิร์ธ ตระหนักถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เอิร์ธ จะปฏิบัติตาม ประเด็น ข้อกำหนด และเงื่อนไข ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ ทั้งนี้สิทธิ์ดังกล่าว จะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกฎหมายในส่วนของสิทธินั้นมีผลใช้บังคับ โดยประกอบด้วย

  • สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ เอิร์ธ เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของบุคคล เว้นแต่กรณีที่ เอิร์ธ มีสิทธิปฏิเสธคำขอ
  • ของบุคคล ด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของบุคคล จะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากบุคคลพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน บุคคลมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  • สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลมีสิทธิขอให้ เอิร์ธ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล ทั้งนี้ในกรณีดังต่อไปนี้
  • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ เอิร์ธ ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
  • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ เอิร์ธ ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้ เอิร์ธ  เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
  • เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ เอิร์ธ กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคล มีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคล เว้นแต่กรณีที่ เอิร์ธ มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น เอิร์ธ สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ เอิร์ธ )
  • สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่บุคคลได้ให้ความยินยอมแก่ เอิร์ธ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) บุคคลมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลถูกเก็บรักษาโดย เอิร์ธ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้ เอิร์ธ จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างบุคคล กับ เอิร์ธ ที่ให้ประโยชน์แก่บุคคลอยู่

สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคล จาก เอิร์ธ ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูล

ส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้  เอิร์ธ ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้ การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

  1. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับ

ในกรณีที่บุคคลพบว่า เอิร์ธ มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลนั้นมีสิทธิ์ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว เอิร์ธ ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายัง เอิร์ธ เพื่อให้ เอิร์ธ ได้มีโอกาสได้รับทราบในข้อเท็จจริง และได้มีโอกาสในลำดับแรกที่จะชี้แจงในประเด็นต่างๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของบุคคลนั้นๆ ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป

  1. การปรับปรุงแก้ไขนโยบาย

เอิร์ธ อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร จะดำเนินการเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยยะสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง โดยจะทำการเปิดเผยนโยบายฉบับที่มีการปรับปรุงแล้วบนเว็บไซต์ของ เอิร์ธ ต่อไป เพื่อทำการแจ้งให้บุคคลทราบ โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ ขอให้บุคคลโปรดทำการตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ ผ่านแอปพลิเคชัน หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่ เอิร์ธ ดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่บุคคลจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ เอิร์ธ

ทั้งนี้ การที่บุคคลเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ เอิร์ธ ภายหลังการบังคับใช้แต่โยบายใหม่ ย้ำถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงนโยบายใหม่นั้นแล้ว และโปรดหยุดเข้าใช้งานหากบุคคลนั้นไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้ และโปรดติดต่อมายัง เอิร์ธ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

  1. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ

หากบุคคลใดที่มีข้อสงสัย มีข้อเสนอแนะ หรือมีข้อกังวลที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ เอิร์ธ หรือเกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ หรือบุคคลใดที่ต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อได้ที่

 

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท เอิร์ธ (ประเทศไทย) จำกัด

สถานที่ติดต่อ

287 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 12 ห้องเลขที่ 1201 , 1202 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก

กรุงเทพมหานคร 10500

เว็บไซต์ : WWW.EARTH-TH.COM

 

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ

287 อาคารลิเบอร์ตี้สแควร์ ชั้น 12 ห้องเลขที่ 1201 , 1202 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก

กรุงเทพมหานคร 10500

ช่องทางการติดต่อ 02-696-9789

เว็บไซต์ : WWW.EARTH-TH.COM

 

ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2565

(Mr.Masamitsu Mori)

Vice President